วันจันทร์ที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2559

กลุ่มคำสัั่ง Data Control Language

DCL (Data Control Language) 


DCL (Data Control Language) คือกลุ่มภาษาที่ใช้สำหรับการกำหนดสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลที่จัดเก็บอยู่ในตาราง
ข้อมูล เช่น กำหนดให้ นาย A สามารถเข้าถึงเฉพาะตารางข้อมูลนี้ ห้ามเข้าถึงตารางข้อมูลอื่น ๆ หรือกำหนดให้ นาย B
เข้าถึงได้ เฉพาะ Field ที่ต้องการเป็นต้น โดยมีคำสั่งต่าง ๆ โดยย่อดังนี้  

1. GRANT คือคำสั่งสำหรับการให้สิทธิกับบุคคลต่าง ๆ เพื่อเข้าถึงข้อมูลในระดับที่เรากำหนดโดยมีรูปแบบคำสั่งโดยย่อดังนี้ 
1
2
3
4
GRANT <privilege>
ON <object>
TO <user>
<WITH GRANT OPTION>
2. REVOKE คือคำสั่งที่มีไว้สำหรับการยกเลิกสิทธิในการเข้าถึงข้อมูล ของบุคคลต่าง ๆ โดยมีรูปแบบคำสั่งโดยย่อดังนี้
1
2
3
REVOKE <GRANT OPTION FOR><permission>
ON <object>
FROM <user><CASCADE>

โดยขออธิบายเพิ่มเติมคำสั่งต่าง ๆ ที่สำคัญ ดังนี้
<privilege> คือสิทธิในการเข้าถึงข้อมูล โดยสามารถระบุคำสั่งของกลุ่ม DML ลงไปได้เช่น SELECT, UPDATE, DELETE และ INSERT
<object> คือชื่อตารางข้อมูลที่เราต้องการกำหนดสิทธิ
<user> คือชื่อผู้เข้าใช้งาน

ภาษาควบคุมข้อมูล (Data Control Language : DCL)


เป็นชุดคำสั่งที่ใช้สำหรับควบคุมสิทธิ์ของผู้ใช้ในการใช้ข้อมูล รวมทั้งส่วนที่ใช้ควบคุมการใช้งานฐานข้อมูลจากผู้ใช้หลาย ๆ คนพร้อมกัน คำสั่งที่จัดอยู่ในประเภท DCL ได้แก่ คำสั่ง GRANT, REVOKE เป็นต้น 
     1138516945 GRANT
เป็นคำสั่งเพื่อกำหนดสิทธิของการเข้าถึงข้อมูลในฐานข้อมูลว่าผู้ใช้แต่ละคน มีสิทธิกระทำการใด ๆ กับข้อมูลเช่น  เพิ่ม, ลบ,แก้ไขข้อมูลในตารางใดได้บ้างหรือกำหนดให้สามารถดูข้อมูลได้เพียงอย่าง เดียวเท่านั้น
การกำหนดสิทธิเข้าถึงข้อมูลได้แก่   การเรียกค้นข้อมูล (SELECT),  การเพิ่มข้อมูล (INSERT),  การลบข้อมูล (DELETE), และการปรับปรุงข้อมูล (UPDATE)   โดยมีรูปแบบดังนี้

 1138516983 REVOKE
      เป็นคำสั่งเพื่อยกเลิกสิทธิการเข้าถึงข้อมูลในฐานข้อมูล   โดยมีรูปแบบดังนี้

กลุมคำสั่ง Data Manipulation language

DML (Data Manipulation Language) 


DML (Data Manipulation Language) คือภาษาสำหรับจัดการข้อมูลที่จัดเก็บอยู่ในตารางข้อมูล ซึ่งในกลุ่มภาษา DML นั้นจะครอบคลุมการจัดการข้อมูลทั้งหมด เช่น การเพิ่ม, แก้ไข, ค้นหา และลบข้อมูล โดยคำสั่งต่าง ๆ มีดังนี้

1. SELECT คือคำสั่งสำหรับสืบค้นข้อมูล หรือค้นหาข้อมูลที่จัดเก็บอยู่ในตารางข้อมูล โดยมักนิยมใช้งานรวมกับคำสั่ง WHERE เพื่อใช้ในการสร้างเงื่อนไขในการแสดงผลข้อมูล โดยมีคำสั่งโดยย่อดังนี้
1
SELECT * FROM <ชื่อตาราง> WHERE ( <เงื่อนไข> )
2. INSERT คือคำสั่งสำหรับการเพิ่มข้อมูลลงไปในตารางข้อมูล เช่นการเพิ่มข้อมูลพนักงาน, สินค้า เป็นต้น โดยมีคำสั่งโดยย่อดังนี้
1
INSERT INTO <ชื่อตาราง> VALUES ( <ค่าข้อมูล>, <ค่าข้อมูล>, ... N )
3. UPDATE คือคำสั่งสำหรับการปรับปรุง หรือแก้ไขข้อมูลในตารางข้อมูล โดยสามารถใช้งานรวมกับคำสั่ง WHERE เพื่อสร้างเงื่อนไขในการแก้ไขข้อมูล
1
UPDATE <ชื่อตาราง> SET <ชื่อ Field> = <ค่าข้อมูล> WHERE ( <เงื่อนไข> )
4. DELETE คือคำสั่งในการลบข้อมูลในตารางข้อมูล โดยสามารถใช้งานรวมกับคำสั่ง WHERE เพื่อสร้างเงื่อนไขสำหรับการลบข้อมูล
1
DELETE FROM <ชื่อตาราง> WHERE ( <เงื่อนไข> )
โดยทั้งหมดคือความหมาย และคำสั่งโดยย่อของกลุ่มภาษา DML (Data Manipulation Language)

ภาษาจัดการข้อมูล (Data Manipulation Language : DML )

เป็นชุดคำสั่งที่ใช้สำหรับประมวลผลหรือจัดการกับข้อมูลในฐานข้อมูล คำสั่งที่จัดอยู่ในประเภท DML
ได้แก่ คำสั่ง SELECT,  INSERT,  UPDATE,  DELETE  เป็นต้น
1138529136 SELECT
เป็นคำสั่งที่ใช้ในการเรียกค้นข้อมูลจากฐานข้อมูลมาแสดงตามที่ผู้ใช้ต้องการ ในการเรียกค้นข้อมูลสามารถใช้คำสั่งได้หลายลักษณะ
ดังนี้คือ
mh_o1  การเรียกดูข้อมูลแบบไม่มีเงื่อนไข
เป็นคำสั่งที่ใช้ในการเรียกดูข้อมูลอย่างง่ายที่สุด โดยไม่มีเงื่อนไขใด ๆ  โดยมีรูปแบบดังนี้

เป็นคำสั่งที่ใช้การเรียกดูข้อมูลเฉพาะที่ตรงกับเงื่อนไขที่ผู้ใช้ต้องการ  โดยมีรูปแบบดังนี้

zh_p1  การเรียกดูข้อมูลจากหลายตาราง
เป็นคำสั่งเพื่อใช้ในการเรียกดูข้อมูลจากหลายตาราง  เนื่องจากบางครั้งข้อมูลที่ต้องการอยู่ในหลาย ๆ ตาราง  ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีการใช้คำสั่งเพื่อดึงข้อมูลมาจากหลายตาราง
gh_m1  การเรียกดูข้อมูลโดยใช้กลุ่มฟังก์ชัน
เป็นคำสั่งพิเศษที่มีอยู่ในภาษา SQL    ได้แก่คำสั่งต่อไปนี้
COUNT   ใช้สำหรับนับจำนวนแถวข้อมูลของคอลัมน์  ว่าในคอลัมน์นั้นมีข้อมูลจำนวนกี่แถว
SUM     ใช้สำหรับหาผลรวมข้อมูลที่เป็นตัวเลขของคอลัมน์
AVG    ใช้สำหรับหาค่าเฉลี่ยของข้อมูลที่เป็นตัวเลขของคอลัมน์
MAX    ใช้สำหรับหาค่าข้อมูลตัวเลขที่มากที่สุดของคอลัมน์
MIN     ใช้สำหรับหาค่าข้อมูลตัวเลขที่น้อยที่สุดของคอลัมน์
ฟังก์ชั่นพิเศษนี้นำไปใช้โดยใส่ไว้หลังคำสั่ง SELECT และตามด้วยคอลัมน์  เป็นการกำหนดว่าให้ฟังก์ชั่นนี้กระทำกับ คอลัมน์ใด ๆ
โดยมีรูปแบบดังนี้
1138529136 INSERT
     เป็นคำสั่งเพื่อเพิ่มข้อมูลเข้าไปในตาราง     โดยมีรูปแบบดังนี้
1138529136 UPDATE
     เป็นคำสั่งเพื่อปรับปรุงแก้ไขข้อมูลที่เคยบันทึกไว้แล้วในตาราง   โดยมีรูปแบบดังนี้
1138529136 DELETE
     เป็นคำสั่งเพื่อลบแถวข้อมูลออกจากตาราง  ซึ่งจะลบข้อมูลเฉพาะที่ตรงกับเงื่อนไขที่ผู้ใช้ต้องการ     โดยมีรูปแบบดังนี้

กลุ่มคำสั่ง Data Definition language

DDL (Data Definition Language) 

ภาษา DDL (Data Definition Language) หรือภาษาสำหรับจัดการ และนิยามโครงสร้างของฐานข้อมูล เป็นภาษาที่มีไว้สำหรับจัดการฐานข้อมูลโดยเฉพาะไม่ว่าจะเป็นการ สร้างฐานข้อมูล, แก้ไข หรือลบฐานข้อมูล โดยในภาษา DDL นั้นประกอบไปด้วยภาษาคำสั่งต่าง ๆ ดังนี้

1. CREATE คือคำสั่งสำหรับการสร้างนิยาม หรือสร้างฐานข้อมูลนั้นเอง หากเราต้องการสร้างฐานข้อมูล เราสามารถใช้รูปแบบคำสั่งได่ดังนี้
1
2
3
4
5
CREATE TABLE <ชื่อตารางข้อมูล>
(
<ชื่อ Field> <ชนิดข้อมูล (ขนาดข้อมูล)>,
<ชื่อ Field> <ชนิดข้อมูล (ขนาดข้อมูล)>
)

2. ALTER  คือคำสั่งในการแก้ไขโครงสร้างของตารางข้อมูล เช่น เราต้องการแก้ไข ชื่อ Field หรือแก้ไของค์ประกอบต่าง ๆ ของตารางข้อมูล มีคำสั่งโดยย่อดังนี้
1
2
ALTER TABLE <ชื่อตารางข้อมูล> DROP COLUMN <ชื่อ Field>
ALTER TABLE <ชื่อตารางข้อมูล> ADD COLUMN <ชื่อ Field><ชนิดข้อมูล (ขนาดข้อมูล)>

3. DROP คำคำสั่งสำหรับลบตารางข้อมูล มีคำสั่งโดยย่อดังนี้

1
DROP TABLE <ชื่อตารางข้อมูล>
ทั้งหมดคือความหมาย และคำสั่งในกลุ่มภาษา DDL (Data Definition Language) ซึ่งในบทความนี้จะไม่เน้นในส่วนของคำสั่งมากนัก เพราะอยากให้ผู้อ่านได้เรียนรู้ความหมายเบื้องต้น และคำสั่งโดยย่อเพียงเท่านั้น


ภาษานิยามข้อมูล (Data Definition Language : DDL)


เป็นชุดคำสั่งที่ใช้สำหรับกำหนดโครงสร้างของตารางในฐาน ข้อมูล  คำสั่งที่จัดอยู่ในประเภท DDL นี้
ได้แก่ CREATE, ALTER และ DROP
iconhanar CREATE TABLE
เป็นคำสั่งที่ใช้ในการสร้างโครงสร้างของตาราง    โดยมีรูปแบบดังนี้

h0d22 ALTER TABLE
CREATE TABLEcustomer
[customer_nochar(6)NOT NULL,
 c_namechar(10)ืNOT NULL,
 c_addresschar(20),
 c_credit_limitdecimal(7,2),
 c_current_balancedecimal(7,2)];
ALTER TABLE
เป็นคำสั่งที่ใช้ในการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างตาราง   โดยมีรูปแบบดังนี้
คำสั่ง  ALTER   TABLE    สามารถใช้ในการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างตารางได้  4  รูปแบบ คือ
     lh_g1 ใช้ในการเพิ่มคอลัมน์
  ตัวอย่าง   การเพิ่มคอลัมน์
ต้องการเพิ่มคอลัมน์   e_telephone  ลงในตาราง  customer  สามารถกระทำได้โดยใช้คำสั่งดังนี้

  zh_p1 ใช้ในการเปลี่ยนแปลงขนาดความกว้างของคอลัมน์
           ตัวอย่าง   การเปลี่ยนแปลงขนาดความกว้างของคอลัมน์
ต้องการเปลี่ยนแปลงขนาดความกว้างของคอลัมน์  c_address  จากเดิม 20  ไปเป็น 25  สามารถกระทำได้โดยใช้คำสั่งดังนี้


5h_r1 ใช้ในการเปลี่ยนชื่อคอลัมน์
           ตัวอย่าง   การเปลี่ยนชื่อคอลัมน์  
ต้องการเปลี่ยนชื่อคอลัมน์  จาก customer_no    ไปเป็น  c_no   สามารถกระทำได้โดยใช้คำสั่งดังนี้

h_mm1 ใช้ในการลบคอลัมน์จากตาราง
           ตัวอย่าง   การลบคอลัมน์ออกจากตาราง
ต้องการลบคอลัมน์   c_telephone    ออกจากตาราง    สามารถกระทำได้โดยใช้คำสั่งดังนี้

 iconhanar DROP TABLE
         เป็นคำสั่งที่ใช้ในการลบตารางออกจากฐานข้อมูล  โดยมีรูปแบบดังนี้

 ตัวอย่าง   ต้องการลบตาราง  customer   ออกจากฐานข้อมูล